กระเบื้องพอร์ซเลน เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในการปูพื้น มีลายหินธรรมชาติ ลายหินขัด และโทนสีมากมายให้เลือกใช้ เนื่องจากคุณสมบัติเด่นหลากหลาย เหมาะสมกับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกบ้าน
“กระเบื้องพอร์ซเลน” ลายหินธรรมชาติ ปัจจุบันมัณฑนากรนิยมนำมาปูพื้นในบ้าน ห้องรับแขก ห้องนอน ห้องครัว มีคุณสมบัติเด่นที่ให้ความเย็น ไม่ซึมน้ำ รับน้ำหนักได้มาก ทนต่อรอยขีดข่วน บทความนี้มีคำแนะนำเทคนิคการใช้กระเบื้องพอร์ซเลน ปูพื้นสไตล์มินิมอล เรียบหรู ดูเท่ห์
“หิน” ความแข็งแรง และงานศิลป์
เป็นเรื่องราวที่ยาวนาน ย้อนไปตั้งแต่สมัยยุคโบราณ “หิน” ถูกใช้เป็นอาวุธ ที่พัก ตลอดจนเครื่องหมายทางสัญลักษณ์ทางพิธีกรรมอย่างเช่น Stonehenge ที่ประเทศอังกฤษ ในยุคอียิปต์โบราณ หินปูนและหินแกรนิต ถูกนำมาใช้ปลูกสร้างพีระมิด เป็นหลักฐานทางสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ของมนุษชาติที่มีอายุมากกว่า 3,000 ปี
ยุคปัจจุบัน หินกลายเป็นวัสดุยอดนิยมสำหรับการตกแต่งในหลากหลายสไตล์ เช่น มินิมอล ลักซ์ชัวรี หรือโมเดิร์น แต่เนื่องจาก “หินธรรมชาติ” หาได้ยากขึ้น “หินอ่อนเทียม Sintered Stone” และ “หินขัด Terrazzo” จึงได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการทั้งด้านความสวยงาม และ ความทนทาน อีกทั้งช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การตกแต่งภายในด้วยหิน เช่น เคาน์เตอร์ครัวหินอ่อนเทียม Sintered Stone หรือ ปูพื้นกระเบื้องพอร์ซเลนลายหิน กลายเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างบ้านที่สะท้อนความหรูหราและความใกล้ชิดกับธรรมชาติ
กระเบื้องพอร์ซเลนปูพื้น สไตล์มินิมอล
การใช้ “กระเบื้องพอร์ซเลน” ในการปูพื้นสไตล์มินิมอลเป็นวิธีที่ช่วยสร้างบรรยากาศเรียบง่าย สงบ และทันสมัยให้กับบ้านได้อย่างลงตัว Prodigy Design มีคำแนะนำให้คุณลองนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับโครงการดังนี้
1. เลือกโทนสีที่เรียบง่าย
- สีขาวหรือสีครีม: เพิ่มความโปร่งโล่งและช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้น
- สีเทาอ่อน: ให้ความรู้สึกอบอุ่นและกลมกลืน เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ
- สีเบจหรือสีน้ำตาลอ่อน: เพิ่มความรู้สึกอบอุ่นและสบายตา
- สีดำหรือสีเทาเข้ม: ใช้เป็นพื้นที่ต้องการความสง่างาม แต่ควรใช้ร่วมกับการตกแต่งโทนอ่อนเพื่อไม่ให้ดูอึดอัด
2. เลือกพื้นผิวกระเบื้องที่เหมาะสม
- ผิวด้าน (Matte Finish): สร้างลุคที่ดูอบอุ่น เรียบง่าย และเข้ากับสไตล์มินิมอล
- ผิวกึ่งมัน (Semi-Glossy Finish): ให้ความรู้สึกหรูหราเล็กน้อยโดยยังคงความเรียบง่าย
- ผิวลายธรรมชาติ (Natural Texture): เช่น ลายหินหรือปูนเปลือย เพื่อเพิ่มมิติแบบธรรมชาติ
3. ขนาดกระเบื้องที่แนะนำ
- กระเบื้องขนาดใหญ่ (60×60 ซม., 80×80 ซม., หรือ 90×90 ซม.): ช่วยลดรอยต่อและทำให้พื้นดูกว้างขวางขึ้น
- กระเบื้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า (30×60 ซม. หรือ 30×90 ซม.): เหมาะสำหรับการจัดลวดลายแบบเรียงสลับเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ
- เลือกขนาดกระเบื้องที่สมดุล: กระเบื้องที่สมดุลกับขนาดของห้อง เช่น ห้องเล็กควรใช้กระเบื้องขนาดกลางเพื่อไม่ให้ห้องดูแคบ
4. การจัดวางลวดลาย
- วางเรียบ (Straight Layout): เหมาะสำหรับลุคที่เน้นความเป็นระเบียบและเรียบง่าย
- วางแบบอิฐ (Brick Layout): เพิ่มมิติเล็กน้อยโดยไม่ทำให้ลุคดูซับซ้อนเกินไป
หลีกเลี่ยงลวดลายที่ซับซ้อนหรือสีสันที่จัดจ้าน เนื่องจากขัดกับแนวคิดมินิมอล
5. การใช้ร่วมกับวัสดุอื่น
- ไม้: ใช้ร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน เช่น โอ๊คหรือต้นสน เพื่อเพิ่มความอบอุ่น
- โลหะสีดำหรือขาว: เพิ่มความทันสมัยและความเรียบง่าย
- กระจก: ช่วยสะท้อนแสงและเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับห้อง
6. ความสว่างและแสง
- กระเบื้องพอร์ซเลนสีอ่อนช่วยสะท้อนแสงธรรมชาติ ทำให้ห้องดูสว่างและน่าอยู่
ใช้แสงไฟ LED สีขาวนวลเพื่อให้เข้ากับโทนสีของกระเบื้องและการตกแต่งมินิมอล
7. เพิ่มจุดเด่นเล็กๆ ด้วยกระเบื้องลายหินธรรมชาติ
- กระเบื้องพอร์ซเลนลายหินอ่อน เช่น ลาย Aftergold หรือ Candle Light เพื่อเพิ่มความหรูหราแบบ understated
- ใช้ “กระเบื้องลายหินขัด Terrazzo” โทนสีอ่อนเพื่อเพิ่มความน่าสนใจแบบมินิมอลร่วมสมัย
สอบถามประเมินราคา
หากคุณมีแผนปรับปรุงบ้าน ร้านค้า หรือ ที่อยู่อาศัยประเภทต่างที่ต้องใช้กระเบื้องตกแต่ง โทรสอบถามกับโพรดิจี้ ดีไซน์ เพื่อช่วยคุณวางแผนงานต่างๆ ที่จำเป็นได้ ทีมงานยินดีให้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ